การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ DRU Model
การจัดการศึกษามี 3 รูปแบบดังนี้
1. การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและการประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2. การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบวิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกล
3. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม สื่อหรือแหล่งความรู้อื่นๆ
ด้านความรู้ (Knowledge) กำกับด้วยปรัชญาทางการศึกษา 2 ปรัชญา คือ ปรัชญาสารัตถนิยม (Essentialism) ซึ่งมีแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนเพื่อเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณี และ ปรัชญานิรันดรนิยม (Perenialism) ที่มีแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนด้วยเหตุผล เรียนรู้ในสิ่งที่เป็นเนื้อหาสาระที่มั่นคง
ด้านผู้เรียน (Learner) กำกับด้วยปรัชญาการศึกษาอัตถิภาวะนิยม (Existentialism) ซึ่งมีแนวคิดที่ให้บุคคลมีเสรีภาพในการเลือกด้วยตนเอง มีแนวทางการจัดการศึกษาโดยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเลือกประสบการณ์ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ด้านสังคม (Society) จะกำกับด้วยปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism) โดยมีแนวคิดในการจัดการศึกษาให้กับ ผู้เรียนควรเป็นไปเพื่อการพัฒนาสังคม เนื่องจากสังคมมีปัญหา
จากรูปแบบการศึกษาตลอดชีวิต จะสอดคล้องกับแนวความคิดของไทเลอร์ 4 ขั้น จะได้สามเหลี่ยม ภายในวงกลมสี่รูป ได้แก่
1.สามเหลี่ยมแรก การวางแผน ( Planning) อาศัยแนวคิดพัฒนาหลักสูตรของ ไทเลอร์คำถามที่หนึ่งคือ มีจุดมุ่งหมายอะไรบ้างในการศึกษาที่โรงเรียนต้องแสวงหา เพื่อนำไปวางแผนหลักสูตร กำหนดจุดหมายหลักสูตร
2. สามเหลี่ยมรูปที่สอง การออกแบบ (Design) นำจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมาจัดทำกรอบการปฏิบัติ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามกระบวนการของหลักสูตร สอดคล้องกับคำถามที่สองของไทเลอร์ คือ มีประสบการณ์ศึกษาอะไรบ้างที่โรงเรียนควรจัดเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายในการศึกษา การออกแบบหลักสูตรเพื่อให้มีจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์ที่ตอบสนอง จุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
3.สามเหลี่ยมรูปที่สาม การจัดระบบหลักสูตร (Organize) จัดหลักสูตรเพื่อตอบสนองการวางแผนหลักสูตร สองคล้องกับคำถามที่สามของไทเลอร์ คือ จัดประสบการณ์เรียนรู้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ การจัดระบบหลักสูตรให้ได้ประสิทธิภาพมีความหมายรวมถึงการบริหารที่สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และรวมถึงการนิเทศการศึกษา
4.สามเหลี่ยมรูปที่สี่ การประเมิน (Evaluation) ประเมินทั้งระบบหลักสูตรและผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร สอดคล้องคำถามที่สี่ของไทเลอร์ คือ ประเมินประสิทธิผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร
การเรียนรู้ตลอดชีวิต
P = Planning (การวางแผน)
C = Cognitive network (ความรู้ความกระจ่างชัด)
D = Design (การออกแบบและการพัฒนา)
A = Affective network (การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพk
M = Management (การจัดการ,การควบคุม)
L = Learning (การเรียนรู้)
S = Strategic network (กลวิธี)
A = Assessment (การประเมินค่า)
E = Evaluation (การประเมินผล)
จากรูปด้านดังกล่าวสามารถแบ่งออกเป็นดังนี้
สามเหลี่pมรูปที่ 1
สามเหลี่ยม (D) การวินิจฉัยความต้องการในการเรียนรู้ จะนำไปสู่ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ดังนี้1. P = Planning (การวางแผน)
2. D = Design (การออกแบบและการพัฒนา)
3. C = Cognitive network (ความรู้ความกระจ่างชัด)
4. A = Affective network (การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ)
สามเหลี่ยมรูปที่ 2
สามเหลี่ยม (R) ขั้นการวิจัยเพื่อกำหนดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้จะนำไปสู่ขั้นตอน การจัดการเรียนรู้ดังนี้
1. C = Cognitive network (ความรู้ความกระจ่างชัด)
2. L = Learning (การเรียนรู้)
3. M = Management (การจัดการ,การควบคุม)
4. S = Strategic network (กลวิธี)
ามเหลี่ยมที่ 3
สามเหลี่ยม (U) การตรวจสอบทบทวนโดยใช้แนวคิด UDL เพื่อการประเมินการพัฒนาการเรียนรู้จะนำไปสู่ขั้นตอน การจัดการเรียนรู้ดังนี้
1. A = Assessment (การประเมินค่า)
2. S = Strategic network (กลวิธี)
3. A = Affective network (การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ)
4. E = Evaluation (การประเมินผล)
จากขั้นตอนการจัดรูปแบบการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่า การจัดรูปแบบการเรียนรู้ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนโดยมีการวางแผน การออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อใช้เป็นแบบแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้เฉพาะ ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนาเพื่อกำหนดลักษณะขององค์ประกอบการเรียนรู้ นำวิธีการเชิงระบบมาจัดความสัมพันธ์ขององค์ประกอบการเรียนรู้ และสามารถปรับใช้ให้เหมาะสม
ที่มา http://mathdru.blogspot.com/2016/11/blog-post.html
ดูขอมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.slideshare.net/AmittaTapparak1/ss-68317749